7 โรคฮิต มนุษย์ออฟฟิศ ยุค2021
- sarirarak
- Feb 8, 2021
- 1 min read
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเงินคือปัจจัยหลักที่สำคัญในการมีชีวิตอยู่ แต่ทราบหรือไม่ การที่คุณทำงานหนักหรือเครียดเกินไปจะทำให้คุณมีภัยเงียบที่ร้ายกาจตามมาโดยที่คุณอาจจะไม่รู้ตัว ซึ่งภัยเงียบเหล่านั้นก็คือ โรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ นั่นเอง แต่สำหรับโรคยอดฮิตของมนุษย์เงินเดือนอย่างเรานั้นจะมีโรคอะไรบ้าง มาดูกันเลย

1. โรคกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ
สำหรับมนุษย์ออฟฟิศ ที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นประจำต้องระวังโรคนี้เป็นอย่างมาก เพราะการที่เราต้องใช้ข้อมือในท่าทางเดิมเป็นประจำ และมีการใช้งานข้อมือหนัก ๆ ซึ่งสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดในการเกิดโรคนี้ก็คือการใช้คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์แบบผิดท่าทางทำให้เกิดการกดทับ จนมีอาการชา เหน็บหรือปวดแสบปวดร้อน ตั้งแต่บริเวณนิ้วมือ ฝ่ามือและอาจจะลามไปถึงหัวไหล่ได้ ซึ่งถ้าหากอาการเหล่านี้ยังไม่รุนแรงมากนัก สามารถรักษาได้ด้วยการประคบร้อนหรือกดนวดบริเวณผังผืดที่กดทับเส้นประสาท และลองยืดเส้นยืดสาย นอกจากนี้ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เม้าส์และคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ให้ถูกท่า แต่ถ้าหากมีอาการรุนแรงควรต้องพบแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดเพื่อดูแลอาการให้ถูกวิธี
2. โรคสมาธิสั้นจากการทำงาน
โรคนี้ถือว่าเป็นอีกโรคที่ใกล้ตัวไม่ว่าใครก็สามารถที่จะเป็นโรคนี้ได้ ด้วยสาเหตุที่ว่าคนยุคปัจจุบันต้องทำงานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่บีบคั้นและวุ่นวายตลอดเวลา แถมยังต้องรับผิดชอบและทำงานหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน จนทำให้เราไม่สามารถจดจ่อกับอะไรนาน ๆ ได้ และกลายเป็นคนความอดทนต่ำ อีกทั้งยังทำให้ความสามารถในการทำงานของเราลดลงไปอีกด้วย วิธีการป้องกันไม่ให้เรากลายเป็นคนสมาธิสั้นจากการทำงานก็คือ การพักผ่อน และบริหารเวลาให้เหมาะสม นอกจากนี้ควรลองหันมาคุยกับเพื่อนร่วมงานบ้างเพื่อเป็นการผ่อนคลาย ขณะทำงาน แต่ถ้าหากมีอาการหนักจนไม่สามารถโฟกัสงานใดงานหนึ่งได้เลย ควรปรึกษาจิตแพทย์เพื่อรักษาอย่างจริงจัง
3. โรคตาพร่ามัว ตาแห้ง
ในปัจจุบันแทบจะไม่มีอาชีพไหน ที่ต้องทำงานโดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์หรือมือถือ แถมบางคนยังต้องจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน 8-10 ชั่วโมงต่อวัน จนทำให้กล้ามเนื้อตาล้า ตาแห้ง ปวดตา ตาพร่าเบลอ มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคสายตาของคนทำงานยุคใหม่ “Computer Vision Syndrome (CVS)” และยิ่งถ้าหากคุณทำงานอยู่ในห้องแอร์ที่มีสภาพอากาศแห้งด้วยแล้ว จะต้องระวังเรื่องตาแห้งไว้เป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากเกิดการอักเสบจะทำให้เป็นต้อลมได้ วิธีป้องกันโรคตาพร่ามัว ตาแห้งได้ดีที่สุด คือการหมั่นพักสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง ออกไปรีแลกซ์หรือมองสีเขียว ๆ ก็ช่วยได้เหมือนกัน
4. โรคอ้วน
โรคนี้ไม่ได้เกิดจากการทานเยอะ ๆ อย่างเดียว แต่การนั่งทำงานอยู่กับโต๊ะเป็นเวลานาน ๆ ทำให้ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย และยิ่งไปกว่านั้นเมื่อนั่งอยู่กับที่นาน ๆ ก็มักจะง่วงหรือหิวจนต้องหาขนมจุกจิกมารับประทานเล่น แถมยังไม่ได้ออกกำลังกาย จึงทำให้เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เป็นโรคอ้วนได้ และนอกจากนี้ความเครียดก็สามารถทำให้อ้วนได้เช่นกัน เพราะสมองของเราจะหลั่งฮอร์โมนความเครียด ซึ่งไปกระตุ้นให้เซลล์ไขมันในช่องท้อง ให้เก็บสะสมได้มากยิ่งขึ้น และโรคอ้วนยังเป็นบันไดขั้นต้นนำไปสู่สารพัดโรคอีกมากมาย เช่น โรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน ไขมันอุดตัน เป็นต้น
5. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
หลาย ๆ ครั้งที่งานเร่ง งานด่วนที่เข้ามาในแต่ละวัน อาจทำให้เราไม่อยากเข้าห้องน้ำ ซึ่งการกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน ๆ เป็นต้นเหตุของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ และสำหรับใครที่บอกว่า ไม่เห็นเป็นไรเลยเราก็แก้ด้วยวิธีการดื่มน้ำให้น้อยลงแทน จะได้ไม่ต้องเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ แต่หารู้ไม่ว่าการดื่มน้ำน้อยก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คุณเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้เช่นกัน เพราะเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในร่างกาย ไม่ได้ถูกขับออกมาแถมยังเจริญเติบโตเพิ่มจำนวนในร่างกายของเราอีกด้วย จนทำให้เกิดการติดเชื้อและอักเสบได้
โดยอาการของโรคเริ่มจากปัสสาวะกะปริบกะปรอย ไม่สุด ปวดบริเวณท้องน้อย แสบ ขัด และปัสสาวะสีขุ่น และมีกลิ่นผิดปกติ
6. ออฟฟิศซินโดรม
ข้อมูลเชิงสถิติเปิดเผยว่า 80% ของคนไทยเข้าข่าย “ภาวะออฟฟิศซินโดรม” หรือคิดเป็น 4 ใน 5 ของคนทำงาน ภัยเงียบที่พ่วงไปด้วยโรคต่าง ๆ อีกมากมาย โรคนี้เกิดจากหลายสาเหตุมาก เช่น การนั่งหน้าคอมพิวเตอร์หรือทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งด้วยท่าทางซ้ำ ๆ ท่าทางในการทำงานที่ไม่เหมาะสม หรือแม้แต่สภาพแวดล้อมหรืออุปกรณ์ในการทำงานไม่เหมาะสม จนทำให้คุณเกิดอาการปวดกล้ามเนื้อแบบธรรมดา ๆ ทั่วไปจนกลายเป็นอาการปวดเรื้อรัง รวมไปถึงอาการชาที่บริเวณแขนหรือมือ จากการที่เส้นประสาทส่วนปลายถูกกดทับอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ ดังนั้นการป้องกันไม่ให้เกิดออฟฟิศซินโดรมได้ด้วยวิธีการออกกำลังกายด้วยท่าที่เหมาะสม หรือแม้แต่ยืดเหยียดหรือเปลี่ยนอิริยาบถเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้ออย่างน้อยทุก ๆ 1 ชั่วโมง
7. โรคซึมเศร้า
โดยโรคนี้จะส่งผลกับสภาพจิตใจมากกว่าระบบร่างกายของเราโดยตรง ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคนี้ เริ่มมาจากสภาพความเครียด ความกดดัน และความสัมพันธ์ทางด้านสังคมที่อาจจะสร้างแรงตึงเครียดขึ้นจนสะสมมากขึ้น ๆ จนกลายเป็นภาวะซึมเศร้าในที่สุด ซึ่งโรคนี้สามารถรักษาให้หายได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องปฏิบัติตามแผนการรักษาของแพทย์เพื่อให้อาการดีขึ้น และนอกจากนี้ผู้ป่วยยังสามารถรับมือได้ด้วยตนเองโดยไม่ตั้งเป้าหมายการทำงานที่ยากเกินไป วางแผนสิ่งที่ต้องทำให้เป็นระเบียบในแต่ละวันจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้ เขียนบันทึกระบายความรู้สึกออกมาบ้าง ออกกำลังกายผ่อนคลายความเครียดซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยให้เราก้าวผ่านโรคนี้ไปได้นั่นเอง
การทุ่มเทกับหน้าที่การงานนั้นเป็นสิ่งดี แต่ในฐานะมนุษย์เงินเดือนที่มีสองมือสองขาและมีคนรออยู่ข้างหลังก็ควรแบ่งเวลามาดูแลสุขภาพของตัวเอง และหันมาให้เวลากับคนในครอบครัว เพราะท้ายที่สุดถึงแม้ว่าเราประสบความสำเร็จแต่อาจต้องอยู่เพียงลำพังและต้องมาเสียเงินไปกับค่ารักษาพยาบาลก็เป็นสิ่งที่ไม่คุ้มค่าต่อกัน อย่าลืมดูแลสุขภาพกันนะคะ
--------------------------------------------------------
.
📍 คลินิกอยู่ติดถนนแจ้งวัฒนะ : ปากซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 47
🚙 มีที่จอดรถหลายคัน
🕘 เปิด 9:00 - 20:00 น. (หยุดวันอังคาร)
📳 096-515-4692
🆔 Line : @sarirarak
🌐 www.sarirarak.com
💳 ยินดีรับบัตรเครดิต ไม่ชาร์จค่ะ
Erek erek 2d lengkap
Buku mimpi erek erek
Erek erek togel terbaru
Cara curang togel online
Cara menang togel 4d
Trik menang togel
Rahasia curang togel
Cara jitu menang togel
Kode alam menang togel
Cara pasang angka agar menang
Freebet gratis terbaru
Freebet gratis tanpa deposit
Freebet tanpa syarat
Link freebet gratis
Freebet harian
Freebet langsung cair
Freebet gratis hari ini
Situs freebet terpercaya
Freebet gratis 2025
Freebet untuk togel
Syair Sgp hari ini
Syair Sgp jitu
Syair Sgp malam ini
Syair Sgp terbaru
Syair Sgp lengkap
Gambar syair Sgp
Syair Sgp kode alam
Syair Sgp bocoran
Syair Sgp angka main
Syair Sgp singapura
Syair Sdy hari ini
Syair Sdy lengkap
Prediksi bocoran Sdy
Syair Sdy terbaru
Syair Sdy jitu