top of page

5 วิธีเช็คอาการ “ข้อเข่าเสื่อม”



ต้นเหตุ “เข่าเสื่อม”


ข้อเข่าเสื่อม เกิดจากการเสื่อมสภาพของผิวข้อ เนื่องจากกระดูกอ่อนผิวข้อถูกทำลายจากการเปลี่ยนแปลงภายในข้อ และร่างกายไม่สามารถซ่อมแซมกระดูกอ่อนผิวข้อได้ทัน เมื่อกระดูกอ่อนผิวข้อมีเลือดมาเลี้ยงน้อย ส่งผลให้เซลล์กระดูกอ่อนได้รับสารอาหารและออกซิเจนไม่เพียงพอ ไม่สามารถสังเคราะห์สารอาหารที่จำเป็นไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ ส่งผลให้ข้อที่เสื่อมไม่สามารถรับน้ำหนักได้ ทำให้มีอาการเจ็บปวดในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยไม่ได้เป็นเฉพาะในผู้สูงอายุเท่านั้น เพราะสาเหตุของการเสื่อมของข้อเข่ามีหลายสาเหตุด้วยกัน ดังนี้


1. อายุ : มักไปเริ่มมีอาการตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้น และกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป มีโอกาสเป็นโรคนี้ถึง 40%

2. เพศ : เพศหญิงมีความเสี่ยงเป็นโรคนี้มากกว่าผู้ชาย 2-3 เท่า

3. น้ำหนัก : น้ำหนักตัวที่มากเกินไป จะเพิ่มแรงกระทำกับข้อเข่ามากขึ้นด้วย รวมทั้งเซลล์ไขมันที่มีมากเกินไปจะส่งผลทำให้เซลล์กระดูกอ่อน และเซลล์กระดูกเสื่อมเร็วขึ้น

4. การใช้งานเข่า : การทำกิจกรรม หรือกิจวัตรประจำวันที่มีแรงกดต่อข้อเข่ามากยิ่งเพิ่มความเสี่ยง เช่น การวิ่งมาราธอน การเดินขึ้น-ลงบันได

5. อุบัติเหตุ : การได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ บริเวณข้อ หรือเส้นเอ็น หรือการบาดเจ็บเรื้อรังจากการออกกำลังกาย

6. โรคประจำตัว : ที่มีผลกับข้อเข่า เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เกาต์


เช็คอาการ “ข้อเข่าเสื่อม”


คุณอาจกำลังมีความเสี่ยงเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม หากมีอาการเหล่านี้มากกว่า 3 ข้อ


1. ปวดเข่า บริเวณข้อ ปวดเรื้อรัง ปวดมากขึ้นเมื่อมีการใช้งาน และทุเลาลงเมื่อพักการใช้งาน

2. มีเสียงในข้อเข่า เมื่อขยับเคลื่อนไหว

3. ข้อเข่าตึง ฝืด เมื่อพักการใช้งานข้อเข่าเป็นเวลานาน

4. ปวดเสียวที่ข้อเข่าเมื่อขึ้น-ลงบันได

5. เข่าเปลี่ยนรูป เกิดจากการเสื่อมของเข่า และเกิดกระดูกงอก ทำให้เข่าเปลี่ยนรูป

หากปล่อยไว้นานไม่ทำการรักษา อาจจะรุนแรงถึงขั้นไม่สามารถเดินได้ เพื่อการรักษาข้อเข่าให้อยู่กับเราได้อีกนาน หากมีอาการควรรีบพบผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

“โรคข้อเข่าเสื่อม” ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถรักษาแบบควบคุมอาการปวดได้ และทำให้ข้อเข่าสามารถกลับมาใช้งานได้ปกติ หรือเหมือนเดิมให้มากที่สุด และป้องกันการผิดรูปของข้อเข่าอีกด้วย ทั้งนี้การรักษานั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยของผู้ป่วยที่แตกต่างกัน


โดยแบ่งการรักษาออกเป็น 2 แบบด้วยกัน คือ


1.รักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด

  • ออกกำลังกายเพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรง

  • ลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์เพื่อลดแรงกระทำต่อข้อ

  • ใช้เครื่องช่วยเดิน เพื่อผ่อนการลงน้ำหนัก ลดแรงกระทำต่อข้อ เช่น ไม้ค้ำ ไม้เท้า

  • การทำกายภาพบำบัด เช่น การรักษาด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ การกระตุ้นไฟฟ้าผ่านผิว การเลเซอร์ เป็นต้น

  • การใช้ยากลุ่มต่างๆ ที่รักษาโรคข้อเข่าเสื่อม อย่างเช่น พาราเซตามอล บรรเทาอาการปวดในเบื้องต้น ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ การฉีดน้ำเลี้ยงไขข้อ ช่วยลดอาการปวด และช่วยการเคลื่อนไหวให้ดีขึ้น

2.การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียม


เป็นการรักษาเมื่อมีข้อบ่งชี้ในกรณีข้อเสื่อมอย่างรุนแรง ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ หรือมีอาการผิดรูปของข้อมาก เป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิผลมาก


--------------------------------------------------------

#ปวดเมื่อยเรื้อรัง #รักษาให้ตรงจุด #ที่สรีรารักคลินิกกายภาพบำบัด

#ปวดคอ #ปวดคอบ่า #ปวดคอบ่าไหล่ #นิ้วล็อก #ปวดข้อมือ

.

📍 คลินิกอยู่ติดถนนแจ้งวัฒนะ : ปากซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 47

🚙 มีที่จอดรถหลายคัน

🕘 เปิด 9:00 - 20:00 น. (หยุดวันอังคาร)

📳 096-515-4692

🆔 Line : @sarirarak

🌐 www.sarirarak.com

💳 ยินดีรับบัตรเครดิต ไม่ชาร์จค่ะ

Featured Posts
Recent Posts
Search By Tags
bottom of page