5 พฤติกรรมที่ทำให้คุณปวดต้นคอ
67% ของคนสมัยนี้ประสบปัญหาเรื่องคอ ความร้ายกาจคือมันเริ่มจากปวดเมื่อยบริเวณต้นคอไล่ลงบ่าและไหล่ ลามไปสะบักร้าวไปจนถึงปลายแขน ในขณะเดียวกันก็ไต่ขึ้นหัวส่งผลให้สายตาพร่ามัวและปวดหัวอย่างไม่มีสาเหตุ ซึ่งสาเหตุหลักๆ มาจากการใช้ชีวิตของคนเรานั่นเอง ซึ่งถือเป็นเรื่องดีเพราะพฤติกรรมเหล่านี้เราแก้ไขได้
เล่นมือถือมากไป
ปกติศีรษะของคนเราหนักราวๆ 5 กิโลกรัม แต่พออยู่ในท่าก้มหัวเล่นมือถือ น้ำหนักของศีรษะจะเพิ่มขึ้นเป็น 27 กิโลกรัม! นั่นคือความทรมานของคอ โรค Text Neck Syndrome ทำให้คอยื่นไปด้านหน้า นิ้วมือล็อกจากการแชท ไหล่ติดเพราะแช่อยู่ท่านั้นนานๆ อวัยวะเดียวที่ทรงพลังคือนิ้วโป้ง ทางแก้เดียวที่ทำได้คือเล่นมือถือน้อยลง หรือยกมือถือขึ้นมาที่ระดับสายตาจะได้ไม่ต้องก้มหน้ามองบ่อยๆ
ท่านั่งผิด
ประมาณ 45% ของคนทำงานนั่งไม่ถูกต้อง ส่งให้ปวดคอ บ่า ไหล่ ไล่ลงไปที่หลังส่วนล่าง ทำให้ท่วงท่าเสียหมด จากที่เคยสง่าผ่าเผยกลายเป็นคนเดินหลังค่อมและคอยื่น ปวดหลังเรื้อรัง กินยาแก้ปวดหรือนวดแผนไทยก็ไม่ช่วย ทางแก้คือให้ยืนทำงานบ้าง หรือตั้งเวลาเตือนให้ลุกขึ้นมาเดินยืดเส้นยืดสายให้เลือดหมุนเวียนทุกๆ 30-40 นาที
สูบบุหรี่
อีกหนึ่งเหตุผลที่คุณควรเลิกเป็นสิงห์อมควัน หลังพบว่าการสูบบุหรี่ลดปริมาณน้ำในหมอนรองกระดูกบริเวณหลังและคอ เท่ากับเร่งการเกิดข้อเสื่อม ทำให้หมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทและเพิ่มแรงกดบนกระดูกสันหลังเมื่อทำอิริยาบถต่างๆ ในชีวิตประจำวัน แถมบุหรี่ยังทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก เมื่อเลือดไม่ไปเลี้ยงร่างกาย ออกซิเจนก็ไปไม่ถึง ทางแก้ให้โทร. 1600 เพื่อเลิกบุหรี่
ดื่มหนัก
เหล้าเกี่ยวไรด้วย? เกี่ยวสิ เพราะการดื่มหนักทำให้คุณสลบคาเตียงในท่านอนที่ไม่เหมาะสม ปกติคนเรามักเปลี่ยนท่านอนตลอดทั้งคืน แต่ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่มากเกินไปส่งผลให้หลับเป็นตาย นอนท่าไหนตื่นมาท่านั้น อีกอย่างการนอนบนหมอนหลายๆ ใบหรือหมอนที่นิ่ม ก็มีส่วน
ออกกำลังกายผิดท่า
กลไกร่างกายคนเราเชื่อมโยงถึงกันหมด เมื่อคอ บ่า ไหล่ มีปัญหาเวลาที่คุณออกกำลังกายในยิม ปัญหาที่พบคือการตึงตัวและขาดการยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อช่วงบน ส่งผลกระทบต่อคอและหลังส่วนล่าง หรือการที่คุณละเลยเรื่องการยืดเส้นหลังเล่นโดยเฉพาะคอ เพราะแม้คุณไม่ได้บริหารส่วนนั้นโดยตรง แต่หลายครั้งที่คนเรามักจะเกร็งคอขณะยกเวทโดยไม่รู้ตัว เช่นท่าครันช์