นักกายภาพบำบัดรักษาได้....โดยไม่ต้องควบคุมโดยแพทย์
ในการรักษาด้วยวิธีทางกายภาพบำบัด ต้องรักษาโดยนักกายภาพบำบัดที่มีใบประกอบวิชาชีพทางกายภาพบำบัดเท่านั้น ซึ่งสิ่งนี้หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้ว แต่ที่อาจจะยังไม่ทราบก็คือ นักกายภาพบำบัดสามารถตรวจวินิจฉัยโรค และรักษาผู้ป่วยได้ โดยไม่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์
พันตรีประพล อยู่ปาน ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย สภากายภาพบำบัดได้อธิบายไว้ว่า “หากพิจารณาจากบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัดของนักกายภาพบำบัด ซึ่งได้แก่ พระราชบัญญัติวิชาชีพกายภาพบำบัด พ.ศ. 2547 พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 และข้อบังคับสภากายภาพบำบัดว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัด พ.ศ.2549 จะเห็นได้ว่า กฎหมายทั้งสามฉบับข้างต้นไม่มีบทบัญญัติใดที่กำหนดว่าการประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัดต่อผู้ป่วยของนักกายภาพบำบัดจะต้องผ่านการตรวจวินิจฉัยโรคจากแพทย์ทั่วไปหรือแพทย์เฉพาะทางทุกสาขาเสียก่อน หรือการประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัดจะต้องมีแพทย์หรือผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเป็นผู้ควบคุมอยู่ด้วย หรือบัญญัติห้ามมิให้นักกายภาพบำบัดออกหนังสือรับรองการรักษาทางกายภาพบำบัด
ซึ่งจากบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวส่งผลให้ปัจจุบันสถานพยาบาลของทางราชการหรือเอกชนหลายแห่งที่มีนักกายภาพบำบัดที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเป็นผู้ให้บริการ สามารถทำการรักษาได้ตามกฏหมายโดยไม่จำเป็นต้องมีแพทย์ควบคุม
โดยนักกายภาพบำบัดจะต้องตรวจประเมินผู้ป่วยก่อนและหลังการรักษา ทบทวนการวินิจฉัยทางกายภาพบำบัดและวางแผนการดูแลรักษาเป็นระยะ หรือตัดสินใจหยุดการรักษา หรือส่งปรึกษาไปยังแพทย์ทั่วไปหรือแพทย์เฉพาะทาง ในรายที่ไม่เหมาะสมที่จะรักษาด้วยวิธีการทางกายภาพบำบัด หรือมีภาวะที่ต้องการการรักษาด้านการแพทย์อื่นๆ“
ไม่เพียงเท่านั้น ผู้ป่วยสามารถนำหนังสือรับรองการรักษาทางกายภาพบำบัดที่ออกโดยนักกายภาพบำบัดที่มีเลขทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพ ไปใช้เป็นหลักฐานในการเบิกจ่ายค่ารักษาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่ต้องมีใบส่งตัวจากแพทย์ได้อีกด้วย